อัมพาต หมายถึง กระดุกกระดิก เคลื่อนไหวมิได้ อาจเป็นทั้งตัว หรือบางซีกส่วนของร่างกาย ส่วนอัมพฤกษ์เป็นน้องอัมพาต คือ เพียงแค่อ่อนแรง ที่อ่อนแรงเพราะกล้ามเนื้อไม่ทำงาน
เหตุที่กล้ามเนื้อไม่ทำงาน เพราะประสาทไม่สั่ง หรือประสาทสั่งได้ แต่ไปไม่ถึงกล้ามเนื้อปลายทาง หรือเดินทางไม่สะดวก…ไม่โล่ง แล้วถ้าไม่ใช้งานนานๆ กล้ามเนื้อก็ลีบ ข้อก็ขัด จากนั้นหากประสาทสั่งได้ไปถึงก็อาจสายเกินแก้ เพราะกล้ามเนื้อลีบ ข้อขัดไปเรียบร้อยแล้ว
การแก้ไขจึงต้องเป็นแบบบูรณาการ ตั้งแต่ไม่ให้สมอง ประสาทขาดเลือดขาดอาหาร
ประสาทจะไม่ขาดอาหาร สายส่งคือหลอดเลือดก็ต้องไม่ตีบตัน
หลอดเลือดจะไม่ตีบตัน ก็ต้องระวังสาเหตุ อักเสบอุดตัน หลอดเลือดทั้งหลาย
ที่พบมากคือ เลือดข้นไหลไม่สะดวกจากน้ำตาลในกระแสเลือดสูง ซึ่งก็คือ เบาหวานนั่นเอง
ที่มาของเบาหวาน คือ น้ำตาลล้นเกิน
ทำไมล้นไป…ก็กินมากกว่าใช้ !
อัมพฤกษ์ อัมพาต กับน้ำมันมะพร้าว ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ประธานชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงรายงานของแพทย์หญิงระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่านหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่ให้สามีซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ขั้นรุนแรงจนเกินเยียวยาทางแพทย์ ลองให้กินน้ำมันมะพร้าว เช้าละ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง หรือ 35 มล. พบว่าในช่วงเวลา 7 วัน มีอาการดีขึ้น จากการที่วาดรูปนาฬิกาไม่เป็นร่าง ก่อนใช้น้ำมันมะพร้าว เป็นวาดรูปได้ และดีขึ้นชัดเจนในช่วง 30 วัน (ความสามารถอื่นๆ ก็ดีขึ้นด้วย) ในแง่วิชาการดูเหมือนไม่มีนัยยะ ด้วยเป็นเพียงทำนองคำบอกเล่าว่า “คนนี้หาย คนนั้นไม่ตาย” หากจะให้เป็นเรื่องเป็นราว คงต้องวิจัยในผู้ป่วยจำนวนมาก เปรียบเทียบกลุ่มที่ใช้น้ำมันมะพร้าวกับยาหลอก (placebo) กันอีกนาน !
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งเป็นต่อหน้า หมดหนทางรักษา ญาติควรตัดสินใจ ก้าวข้ามหลักการทำนองนี้ไปได้โดยง่าย ด้วยว่าคำอธิบายความเป็นไปได้ นั้นเป็นเหตุเป็นผลทางวิทยาศาสตร์รับฟังขึ้น ที่สำคัญคือ การลงทุนไม่กี่ร้อยบาท ซื้อน้ำมันมะพร้าวขายในท้องตลาดมาให้ผู้ป่วยทดลองบริโภคนั้น ลงทุนน้อยนิดแล้วมีแต่ได้ อีกทั้งพิสูจน์ง่ายๆ ด้วยการให้ผู้ป่วยลองวาดรูปนาฬิกา หรือทดสอบความจำ ความสามารถ ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ ก่อนใช้ จากนั้น 7 วัน หลังใช้ ลองทดสอบซ้ำ
หากมีท่าทีดีขึ้น ก็สมควรใช้ต่อ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใน 7 วัน จะหยุดก็ได้ หากเกรงว่าน้ำมันมะพร้าวไปเพิ่มคอเลสเตอรอล ก็เจาะตรวจไว้ก่อน แล้ววัดผลเปรียบเทียบหลังใช้ อย่าลืมว่า ให้เปรียบเทียบคอเลสเตอรอลรวมกับ HDL ว่าเกิน 5:1 จึงเป็นนัยยะที่เลว หากคอเลสเตอรอลรวมสูงอย่างเดียว ไม่เป็นไร
ผลพลอยได้จากการลองวาดรูปนาฬิกา หรือขีดเขียน คิดเลข คือ เป็นสิ่งช่วยให้สมองได้ออกกำลัง ฝึกฝน เสมือนการให้แขนขา หัดเดิน หยิบจับ ช่วยพัฒนาสมองได้อีกทางหนึ่ง อานิสงส์นี้น่าจะตกไปถึงผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต พาร์กินสัน หรือโรคทางประสาท อีกหลากหลาย ที่สามารถใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวช่วยง่ายๆ ด้วยตนเอง สมคำว่า “การแพทย์บูรณาการ” ด้วยโอกาสการยกคุณภาพชีวิตด้วยการลงทุนน้อยนิด แบบไม่ต้องเฉพาะเจาะจงตราสินค้าที่มีความเป็นไปได้ มากกว่าการบนบานศาลกล่าว กรรมวิธีสลับซับซ้อนทางการแพทย์ หรือใช้ยาราคาแพงใดๆ !
อย่าไปหวังข้อมูลงานวิจัยที่จะลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่แพทย์ยอมรับ เพราะหน่วยงานด้านป้องกัน สาธารณสุขคงไม่มีทุนวิจัย ส่วนบริษัทยานั้นทำแล้วเสียผลประโยชน์ถ่ายเดียว ด้วยไม่สามารถจดสิทธิบัตร เพื่อกำไรมหาศาลแบบยาได้ ความรู้สู้อัมพาต อัมพฤกษ์ หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาท จึงอาจผนวกวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เกี่ยวกับสรีรวิทยา ของเซลล์เข้ามาใช้ เช่น
- การใช้ชีวโมเลกุลเซลล์สมองซ่อมเซลล์สมอง ที่พิการอยู่ พอพลิกฟื้นขึ้นได้ เสริมแรงกับน้ำมันมะพร้าวอีกทางหนึ่ง
- การให้สารอาหารเกี่ยวกับการส่งกระแสประสาทได้แก่ โคลีน วิตามินบีทั้งหลาย
- การได้มาซึ่งผนังเซลล์ประสาทที่ทรงประสิทธิภาพ และสื่อประสาท ต้องมีโอเมก้า3 EPA และDHA จากปลาหรือน้ำมันปลา
- การใช้สารที่ช่วยนำพาโลหะหนักซึ่งอาจตกค้างในสมอง ออกมาทำลายที่ตับหรือขับออกจากร่างกาย แบบนี้ต้องฝากความหวังกับสารที่สามารถผ่านแนวกั้นสมอง (blood brain barrier) ได้แก่ กรดไลโปอิค โอพีซี และโคคิวเทน
- อีกวิธีนำพาสารพิษออกจากสมอง ของการแพทย์ทางเลือกคือ การใช้สาร EDTA เข้าไปเป็นตัวชักนำ ที่เรียกขบวนการคีเลชั่น (Chelation) แต่ผู้ป่วยต้องนอนให้น้ำเกลือครั้งละเป็นเวลานาน อีกทั้งต้องทำต่อเนื่องกันเป็นคอร์ส ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (หลายหมื่น) แต่หากไปที่โรงพยาบาลของรัฐที่มีบริการให้ ก็อาจประหยัด…แต่อาจไม่สะดวก ฯ
แต่ก็น่าจะคุ้มค่ากับความหวังในการยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน อัมพาต อัมพฤกษ์ ทั้งหลาย มีข้อมูลการใช้น้ำพลังสนามแม่เหล็ก ซึ่งหากได้ผล ก็นับว่าเป็นบุญ แต่ระวังโดนหลอกในประเด็นค่าใช้จ่าย
การใช้สารต้านอนุมูลอิสระไปช่วยรับมือกับอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ทั้งหลาย ได้แก่ วิตามินซี สังกะสี ตลอดจนเบต้ากลูแคน อย่าลืมว่าปฏิกิริยาเคมีหลากหลาย จำเป็นต้องมีแมกนีเซียม แมกนีเซียมยังเป็นสารตั้งต้นอีกตัวหนึ่งในกระบวนการสร้างซีโรโทนิน อะเซทิลโคลีน
อย่าลืมว่าสารอาหารต้องทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะกลุ่มเบ็ดเตล็ดอันประกอบด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ฮอร์โมนพืช อันอาจเรียกรวมๆ ว่า micronutrients ไม่มีอะไรตัวใดตัวเดียวโดดเด่น แบบอัศวินขี่ม้าขาวมาคนเดียว ประเดี๋ยวจะถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อน ไปแบบเบต้าแคโรทีน ! แล้วยังการขีดเขียน หัดคิดเลข ฝึกสมอง ลองปัญญา ดีกว่านั่งๆ นอนๆ รอการป้อนข้าว ป้อนน้ำ
การใช้น้ำมันมะพร้าว VCO เพื่อการซ่อมเซลล์สมอง ควรกินตอนเช้าตื่นใหม่ๆ เพราะกว่า MCT (ไขมันขนาดกลาง) ในน้ำมันมะพร้าวจะถูกแปลงเป็นสารคีโตน ซึ่งเซลล์สมองนำไปใช้ได้นั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ขนาดที่ใช้คือ เช้าละ 2 ช้อนโต๊ะ