เคยสงสัยไหมว่า เวลาตากฝน โดยเฉพาะศีรษะเปียกฝน แล้ววันต่อมาทำไมจึงเป็นหวัดได้
โรคหวัดเกิดจากเชื้อไวรัสเป็นร้อยชนิด ซึ่งกระจายอยู่ในอากาศ แล้วก็ตกอยู่ที่พื้นหรือเกาะอยู่ตามฝุ่น ปกติเราก็สัมผัสกับไวรัสเหล่านี้อยู่ แต่เนื่องจากปริมาณไม่สูง และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งภูมิต้านทานของร่างกาย จึงช่วยให้เราไม่เป็นโรคหวัด
ก่อนฝนตก มักมีลมแรงพัดพาไวรัสให้ฟุ้งกระจายในปริมาณมาก หากเราอยู่บริเวณนั้น ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกป้องกันการรับเชื้อ
เมื่อฝนตก และศีรษะของเราเปียกฝน ทำให้อุณหภูมิของเยื่อบุจมูกลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะกับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่อยู่ในช่องจมูก รวมทั้งไวรัสที่รับมามากก่อนฝนตก ทำให้ภูมิต้านทานไม่อาจต้านได้อีก เกิดการอักเสบของเยื่อจมูก และสร้างสารคัดหลั่งมากขึ้น ทำให้มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งถ้าเชื้อลุกลามไปที่คอ ก็เกิดคออักเสบตามมาได้
นอกจากศีรษะเปียกฝนแล้ว การที่มือและเท้าเปียกน้ำนานๆ ก็ทำให้อุณหภูมิในจมูกลดลงได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น เมื่อศีรษะเปียกฝน ควรรีบเช็ดให้แห้ง หรือสระผมแล้วเป่าให้แห้งโดยเร็ว รีบทำให้ร่างกายอบอุ่น อาจแช่เท้าทั้ง 2 ข้างในน้ำอุ่นก็ได้
เบต้ากลูแคน เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังเม็ดเลือดขาวแมคโครฟาจในการกำจัดเชื้อโรคตั้งแต่ ไวรัส แบคทีเรีย ปาราสิตและเชื้อรา จึงนำมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคหวัดได้
มีรายงานวิจัยพบว่า ในช่วงที่มีการระบาดของโรคหวัด ผู้ที่กินเบต้ากลูแคนเป็นประจำจะมีโอกาสเป็นหวัดน้อยกว่า และเมื่อเป็นหวัดจะมีอาการไม่รุนแรงรวมทั้งหายเร็วกว่าด้วย
ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน เคยกล่าวไว้ว่า “เบต้ากลูแคน เป็นสารเสริมภูมิคุ้มกันที่มีพลังมากที่สุดในโลก”