อาการต้านโรค

Efficacy and Safety of Meriva, a Curcumin-phosphatidylcholine Complex, during extended Administration in Osteoarthritis Patients โดย Giannie Belcaro, Maria Rosaria Cesarone, Mark Dugall, Luciano Pellegrini, Andrea Ledda, Maria Giovanna Grossi, Stefano Togni, Giovanni Appendino ตีพิมพ์ลง Alternative Medicine Review Volume 15, Number 4 ปี ค.ศ. 2010

Abstract

การศึกษาก่อนหน้านี้ในผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบ 50 คน พบว่าการทาน Meriva Curcumin เป็นเวลา 3 เดือนช่วยลดอาการปวดข้อ ทางทีมวิจัยจึงได้ศึกษาเพิ่มเติมถึงผลในระยะยาว โดยทำการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบเพิ่มเป็น 100 คน เป็นเวลา 8 เดือน พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้

บทนำ

เคอร์คิวมิน (Curcumin) เป็นสารสีเหลืองในขมิ้น (turmeric) ซึ่งเป็นเครื่องเทศยอดนิยมในอาหารอินเดีย และเป็นส่วนผสมหลักของผงกะหรี่ ตั้งแต่อดีตมีการใช้ขมิ้นเพื่อรักษาอาการอักเสบมานาน และมีงานวิจัยราว 3,000 ชิ้นเกี่ยวกับขมิ้น จนถือได้ว่าเป็นพืชที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุดตัวหนึ่ง งานวิจัยต่างๆ ได้พิสูจน์ว่าเคอร์คิวมินทำหน้าที่เป็นตัวหลักในการสับเปลี่ยนการอักเสบโดยส่งผลต่อระดับเอนไซม์ที่สนับสนุนการอักเสบ (cyclooxygenases and lipooxygenases) และตัวแปรเพิ่มการอักเสบ (nuclear factor-kappaB และ signal transducer and activator of transcription 3) และการแสดงค่าของยีน เราพบคุณประโยชน์ของเคอร์คิวมินส่วนใหญ่จากผลงานวิจัยด้านระบาดวิทยาซึ่งทดลองในสัตว์และหลอดแก้ว แต่ยังขาดงานวิจัยในมนุษย์ เนื่องจากเคอร์คิวมินมีความเสถียรต่ำ และดูดซึมทางปากได้ไม่ดี แม้ว่าจะใช้ในปริมาณมากกว่า 10 กรัมต่อวันก็ตาม แต่พบว่าเมื่อเคอร์คิวมินเข้าสู่พลาสม่าแล้ว เคอร์คิวมินมีความเสถียรมากและสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อที่ยากจะเข้าถึงเช่น เซลล์สมองได้

สำหรับเคอร์คิวมินของ Meriva นั้นแตกต่างจากเคอร์คิวมินทั่วไป เนื่องจากได้รับการพัฒนาด้วยการเพิ่ม phosphatidylcholine ทำให้เป็นขมิ้นในรูปไฟโตโซม ซึ่งมีความเสถียรและดูดซึมได้ดีกว่าเคอร์คิวมินทั่วไปถึง 20 เท่า การศึกษานี้จะมุ่งวัดประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้เคอร์คิวมินของ Meriva โดยศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยโรคข้อเข่าอักเสบจำนวน 100 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่ม A ที่ใช้การรักษาปกติ กับกลุ่ม B ที่ใช้การรักษาปกติร่วมกับเคอร์คิวมินของ Meriva

โรคข้อกระดูกอักเสบ (Osteoarthritis) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยที่ต้องทรมานกับโรคนี้มากขึ้น เนื่องจากประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นและปัญหาโรคอ้วน การรักษาในปัจจุบันยังคงจำกัดเพียงการบรรเทาอาการ เช่น การออกกำลังกาย, การลดความอ้วน และการใช้ยาระงับปวด ถึงแม้ว่าการใช้ยาต้านการอักเสบ (non-steroidal anti-inflammatory drugs –NSAIDs) ในระยะยาวนั้นจะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงอยู่มาก โดยเฉพาะการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร แต่ก็ยังคงเป็นการรักษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด

กลุ่มตัวอย่างจะเป็นผู้ที่เข่าอักเสบข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ซึ่งเจ็บปวดน้อยถึงปานกลาง และการใช้ยาควบคุมอาการปวดได้ไม่ทั้งหมด การประเมินผลใช้ 5 วิธีคือ (1) ค่า Karnofsky Performance Scale Index ซึ่งแสดงระดับความสามารถในการช่วยเหลือตนเองของผู้ป่วย (สูงสุด = 100) (2) การประเมินระดับอาการข้อกระดูกอักเสบด้วยแบบสอบถาม WOMAC (3) การประเมินทางกายภาพ โดยให้ผู้ป่วยเดินบนสายพาน แล้ววัดระยะทางที่เดินได้โดยไม่ปวด (4) การประเมินโดยดูว่าจำเป็นต้องใช้การรักษาอื่นๆร่วมด้วยมากน้อยเพียงใด และ (5) ค่าใช้จ่ายในการรักษาและผลข้างเคียง

ขนาดของ Meriva Curcumin ที่ใช้ในการศึกษาคือ วันละ 2 แคปซูลๆละ 500 มก. ซึ่งเท่ากับ curcumin 200 มก. โดยรับประทานหลังอาหารเช้า 1 เม็ด และ หลังอาหารเย็น 1 เม็ด เป็นเวลา 8 เดือน

ผลลัพธ์

(1) การประเมินด้วยค่า Karnofsky Performance Scale Index ซึ่งแสดงระดับความสามารถในการช่วยเหลือตนเองของผู้ป่วย (สูงสุด = 100) พบว่ากลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin เป็นเวลา 8 เดือนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยค่า median เพิ่มขึ้นจาก 73.3 เป็น 92.2 ในขณะที่กลุ่ม Control มีค่า median เพิ่มขึ้นจาก 74.2 เป็น 81

(2) การประเมินระดับอาการข้อกระดูกอักเสบด้วยแบบสอบถาม WOMAC

พบว่าในกลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin นั้น ค่าคะแนนต่างๆ ลดลงกว่าครึ่ง ตั้งแต่คะแนนความเจ็บปวด ค่า stiffness และ ค่า physical functions ในขณะที่กลุ่ม Control คะแนนระหว่างก่อนและหลังแทบไม่แตกต่างกันเลย

(3) การประเมินทางกายภาพ โดยให้ผู้ป่วยเดินบนสายพาน

พบว่าในกลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin นั้น สามารถเดินบนสายพานได้ไกลขึ้นถึง 345% ในขณะที่กลุ่ม Control สามารถเดินได้ไกลขึ้นเพียง 89% เท่ากับว่ากลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin นั้น มีความสามารถทางกายภาพดีขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับเพียงยาอย่างเดียว

นอกจากนี้ ผลการวัดระดับการอักเสบ (Inflammatory Markers) ยังบ่งชี้ว่ากลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin นั้นมีระดับการอักเสบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

(4) การประเมินด้านอื่นๆ โดยดูจากค่า median ที่ลดลงหลัง 8 เดือน

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin และกลุ่ม Control หลัง 8 เดือนผ่านไป พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มที่ได้รับ Meriva Curcumin นั้นใช้ยาแก้ปวด/ NSAIDs ลดลงถึง 63.4%, ปัญหาระบบทางเดินอาหารลดลง (Decrease in gastrointestinal complications) 66.7% ซึ่งน่าจะเป็นเพราะใช้ยา NSAIDs ลดลงและฤทธิ์ป้องกันระบบทางเดินอาหารของขมิ้น, การใช้ยาและการบำบัดอื่นๆ ลดลง 42.4%, ค่าใช้จ่ายด้านการจัดการลดลง 63.5%, อาการบวมน้ำลดลง 69% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเพราะปวดได้, พบแพทย์, นอน รพ. และการทำเทสต์ต่างๆ ลดลง 44.6%, ค่าใช้จ่ายด้านกายภาพบำบัดลดลง 46.6%

บทสรุป

พบว่าผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบที่ทาน Meriva Curcumin วันละ 200 มก. เป็นเวลา 8 เดือน นั้นมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, สามารถเดินบนสายพานได้ไกลขึ้น 3 เท่า นอกจากนี้ผลการวัดระดับการอักเสบยังมีค่าลดลงอย่างชัดเจน การที่ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้นนั้นส่งผลเชิงบวกโดยตรงต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้ป่วย ที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันและอยู่ในสังคมได้ ซึ่งสนับสนุนผลการศึกษาอื่นที่ว่าเคอร์คิวมินช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ การที่ผู้ป่วยใช้ยาลดลงหลังจากทาน Meriva Curcumin นาน 8 เดือนนั้น อาจแปลผลได้ว่าเราสามารถลดและงดการใช้ยาได้ในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง