ไตมีหน้าที่กรองของเสีย สารพิษในกระแสเลือด แล้วขับออกจากร่างกายในรูปปัสสาวะ ไตทำหน้าที่ตลอดเวลาไม่ว่ายามหลับ หรือตื่น
สารในปัสสาวะที่ไตกรองและขับออกมักอยู่ในรูปสารประกอบยูเรียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีน้ำเป็นสารละลายหลัก หากมีเลือด โปรตีน (ไข่ขาว) ในปัสสาวะ หรือค่า BUN ครีเอทินีนในเลือดสูงเกินค่ามาตรฐานถือว่าผิดปกติ แต่กว่าจะพบ BUN ครีเอทินีนในเลือดสูงขึ้น ไตก็เสียไปกว่า 70% แล้ว การตรวจให้ไวจริง ต้องหาไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ
อาหารทุกอย่างล้วนเพิ่มภาระการทำงานของไต แม้แต่การดื่มน้ำมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เป็นภาระให้ไตต้องเร่งขับออกเป็นปัสสาวะ โปรตีนจากสัตว์ มีผลต่อความเป็นกรดในกระแสเลือด หากมากไปก็เป็นภาระแก่ไตให้เสื่อมสภาพได้ ไขมัน แป้ง น้ำตาลที่ล้นเกิน ก็เกิดผลทำลายไต
…ดูเหมือนการลดหวาน ลดมัน ลดพุง เป็นการรักษาไตที่ดีสุด
…ไม่มียาบำรุงไต ! พบเพียงชีวโมเลกุลเซลล์ไต ที่น่าจะไปซ่อมแซมเนื้อไตส่วนที่ยังเหลืออยู่ และสารสกัดจากหลินจือ ที่ไปช่วยสลายใยแผลเป็น (Fibrous scar – อ่านรายละเอียดในเรื่องเห็ดหลินจือแดง)
เมื่อไตฟื้นคืนสภาพได้ในบางส่วน ซึ่งสังเกตได้จากผลการลดลงของไข่ขาวในปัสสาวะ ความรู้สึกปลอดโปร่งแจ่มใสผู้ป่วยโรคไต ควรระงับอาหารหรือ ยาบำรุงทุกชนิดที่ไม่จำเป็น หรือเข้าใจว่าจะบำรุงไต เพราะไม่มียารักษาโรคไต ยกเว้นที่ค้นพบในปัจจุบัน คือ ชีวโมเลกุลเซลล์ไต กับหลินจือสกัด (ชีวโมเลกุลอื่นก็จัดเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อันถือว่าได้มากกว่าเสีย กรณีนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคไต)
เมื่อไตฟื้นคืนสภาพได้ในบางส่วน ซึ่งสังเกตได้จากผลการลดลงของไข่ขาวในปัสสาวะ ความรู้สึกปลอดโปร่งแจ่มใสผู้ป่วยโรคไต ควรระงับอาหารหรือ ยาบำรุงทุกชนิดที่ไม่จำเป็น หรือเข้าใจว่าจะบำรุงไต เพราะไม่มียารักษาโรคไต ยกเว้นที่ค้นพบในปัจจุบัน คือ ชีวโมเลกุลเซลล์ไต กับหลินจือสกัด (ชีวโมเลกุลอื่นก็จัดเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อันถือว่าได้มากกว่าเสีย กรณีนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคไต)
เพียงแต่ต้องประคับประคองเนื้อไตส่วนที่ยังมีอยู่ให้คงสภาพได้นานที่สุด โดยไม่โหมสารอาหารมากเกิน ไม่ว่าโปรตีนจากสัตว์ แป้ง น้ำตาล หรือไขมัน
ผักผลไม้ (ไม่หวานจัด) และโปรตีนจากถั่วเหลือง จึงเป็นอาหารแนะนำในผู้ป่วยโรคไต
ชีวโมเลกุลเซลล์ไต และหลินจือสกัด จึงเป็นทางเลือกในการบำรุงรักษาไต