ปัญหาผิวพรรณ

สาวๆ ที่เข้าสู่วัย 30 อาจพบว่าผิวหนังบริเวณสะโพก ต้นขา หรือหน้าท้อง เริ่มมีลักษณะเป็นคลื่น คลำดูตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบ คล้ายผิวเปลือกมะกรูดหรือผิวส้ม อันนี้แหละที่เขาเรียกว่า เซลลูไลท์ (Cellulite) หรือเซลลูลีทนั่นเอง

ปัญหานี้สร้างความหนักใจให้หลายคนจนต้องไปแก้ปัญหากับศูนย์ความงาม ลดสัดส่วนต่างๆ เพื่อให้ได้เรือนร่างดังคำโฆษณา แต่สุดท้ายสิ่งที่หายไปอาจไม่ใช่เซลลูไลท์ แต่กลายเป็นเงินในกระเป๋ามากกว่า…ถ้าไม่เข้าใจ !

เซลลูไลท์ คืออะไร

        คือ ก้อนไขมันใต้ผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังไม่เรียบ ดูตะปุ่มตะป่ำเหมือนผิวเปลือกมะกรูดหรือผิวส้ม เกิดจากไขมันใต้ผิวหนังในร่างกายมีมากเกินไปจนกลายเป็นก้อนไขมัน ซึ่งแต่ละก้อนจะมีเปลือกเหนียวๆ หุ้ม จึงทำให้ดูภายนอกเห็นเป็นลอนๆ ของก้อนไขมัน บริเวณที่พบบ่อยคือ สะโพก  ต้นขา  และหน้าท้อง  พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย  ไม่ได้พบเฉพาะในคนอ้วน ผู้หญิงผอมบางคนก็พบได้ ซึ่งน่าจะมีผลมาจากกรรมพันธุ์ส่วนหนึ่ง

        มีผู้อธิบายว่าเซลลูไลท์ ไม่ค่อยพบในผู้ชาย เพราะไฟเบอร์ที่เชื่อมต่อเซลล์ไขมันเข้ากับผิวหนัง ไขว้เป็นแนวขวาง ทำให้ไม่เกิดโป่งนูน หรือรอยบุ๋มให้เห็น อีกทั้งฮอร์โมนเพศหญิงที่ลดลง ส่งผลให้ผิวบาง เหี่ยวแห้งเร็ว จึงปรากฏก้อนไขมันขึ้นมาให้เห็นโดยง่าย กอปรกับในผู้หญิงนั้น โครงสร้างของสายไฟเบอร์ที่แบ่งส่วนย่อยของไขมันกับผิวหนัง ต่อกันเป็นสายยาวคล้ายรังผึ้ง ดังนั้นเมื่อมีส่วนใดมีไขมันเพิ่มก็มีแนวโน้มที่จะโป่งนูนขึ้นมา อีกทั้งผิวที่บางลง เมื่ออายุมากขึ้น ผสมกับมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ไขมันจึงเด่นชัดขึ้น

การแก้ปัญหาเซลลูไลท์

1. ควบคุมอาหารและน้ำหนัก เพื่อลดปริมาณไขมัน การควบคุมอาหารทั้งปริมาณ และประเภทอาหาร จะช่วยลดขนาดของก้อนไขมันลง ทำให้ผิวดูเรียบขึ้นได้บ้าง แต่บางคนเมื่อลดน้ำหนักแล้ว ก้อนไขมันอาจไม่ลดลงก็ได้ ถ้าโหมลดน้ำหนักจนทำให้ก้อนไขมันมีขนาดเล็กลง ก็อาจทำให้เกิดผิวหนังส่วนเกิน ทำให้ผิวดูหย่อนยานได้ จากความรู้เรื่องโครงสร้างของเซลล์…อาหารพวกไขมันเลว เช่น ไขมันทรานส์ น่าจะเป็นตัวเสริมความรุนแรงของเซลลูไลท์  ขณะที่โอเมก้า3 – ไขมันดี  เป็นปัจจัยลดหรือช่วยสลายเซลลูไลท์ได้ อาหารที่ส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน ได้แก่ แอล–คาร์นิทีน โคลีน วิตามินบี โครเมียม ส่วนแมกนีเซียมนั้น ช่วยเร่งปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน ทั้งช่วยการดูดซึมแคลเซียม เสริมการส่งกระแสประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ส่วนอาหารเสริมที่กำจัดเซลลูไลท์โดยตรงนั้น ไม่มีแอล–คาร์นิทีน ก็เพียงเป็นปัจจัยจำเป็นต่อการเผาผลาญ สลายไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ วิตามินซี สังกะสี ใช้เป็นปัจจัยสร้างคอลลาเจนที่ดี ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือควบคุมอาหารและน้ำหนักให้ดี อย่าให้อ้วนเกินไปจนมีไขมันส่วนเกิน เลี่ยงไขมันเลว ได้แก่ ไขมันทรานส์, ไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาว ไขมันไม่อิ่มตัวที่ผ่านกระบวนการผัดร้อน ทอด ปิ้ง ย่าง น้ำตาลทรายขาว แป้ง ข้าวขัดขาว แอลกอฮอล์ กาแฟ
2. บำรุงตับ และต่อมหมวกไต เลี่ยงสิ่งที่ก่อความเครียดต่อตับ เช่น อาหารที่กล่าวถึงข้างต้น นอนหลับให้เพียงพอ เพิ่มผลไม้ที่มีแป้งน้ำตาลน้อย  เช่น แอปเปิ้ล ส้มโอ เบอร์รี่ต่างๆ โปรตีนที่ไม่มีไขมัน เช่น ปลา ไข่ ผักนึ่ง พริก กระเทียม กระวาน ยี่หร่า
3. ออกกำลังกาย จะช่วยเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน ทำให้ก้อนไขมันมีขนาดเล็กลง นอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดโตขึ้น จึงทำให้ผิวดูเรียบขึ้น กระชับและแข็งแรง วิธีออกกำลังกายพอเหมาะ (60% MHR) คือ ขนาดที่กำลังเหนื่อย แบบร้องเพลงไม่เป็นเพลง (เพราะหายใจขาดตอน – ถ้ายังร้องได้ต่อเนื่อง แสดงว่ายังไม่ถึงขั้น)
4. เครื่องสำอางขจัดเซลลูไลท์ เชื่อว่ามีผลต่อเซลล์ไขมัน โดยทำให้เซลล์ไขมันแตกและไขมันถูกละลาย ซึ่งอาจช่วยดึงของเหลวออกมาจากเซลล์ได้ ทำให้ดูดีขึ้นชั่วคราว  ตัวที่ใช้บ่อยคือกลุ่มเมทธิลแซนทีน (Methylxanthines) ซึ่งได้แก่
   • ทีโอฟิลลีน (Theophylline) ได้จากใบชาหรือการสังเคราะห์
   • คาเฟอีน (Caffeine) ได้จากกาแฟ ชา โคล่า
   • อะมิโนฟิลลีน (Aminophylline) เป็นยาที่ใช้รักษาหอบหืด
5. การนวดอย่างลึก เช่น การใช้คลื่นความถี่สูง ทำให้เซลลูไลท์เรียบขึ้นมาได้ แต่ก็เป็นภาวะชั่วคราว หากร่างกายยังผลิตไขมันเพิ่มขึ้น
6. การดูดไขมัน (Liposuction) แม้จะผ่าตัดดูดไขมันออกไป แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าเนื้อเยื่อที่เหลืออยู่จะดูเรียบขึ้นหรือไม่ อาจขรุขระกว่าเดิมเสียอีก อีกทั้งเซลล์ไขมันก็เพิ่มขึ้นใหม่อยู่ดี หากได้อาหารเกินการใช้ และเซลล์ผิวตลอดจนโครงสร้างผิวไม่แข็งแรง

ดูเหมือนคำตอบของการแก้ไขเซลลูไลท์คือ

1. ทำให้ผิวหนาขึ้น…ก็ด้วยการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังให้สมบูรณ์แข็งแรง
2. ลดเซลล์ไขมันด้วยการออกกำลังกาย ลดแคลอรี่ ลดความอ้วน อย่าให้เกิดการสะสมของเซลล์ไขมัน
3. เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ…ออกกำลังกายแบบที่เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อเพิ่มทดแทนไขมัน เซลลูไลท์ก็ถูกบดบังไปเอง
4. เพิ่มฮอร์โมนเพศ ก็คือ ซ่อมรังไข่ให้แข็งแรง เพื่อการผลิตฮอร์โมนเพศ กระตุ้นให้ผิวเต่งตึง หนา มีน้ำมีนวล การเสริมด้วยฮอร์โมนพืช เช่น จากถั่วเหลือง ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่เป็นสาระ ดูเหมือนคำตอบคือ เซลล์ซ่อมเซลล์ และการออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนครีมนวดเป็นตัวช่วยเบื้องต้น ที่เห็นผลทันตาทันใจแต่ไม่ถาวร สรุปว่า วิธีป้องกันเซลลูไลท์ที่ดีที่สุด และเสียเงินน้อยที่สุด คือการควบคุมอาหาร ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

* สรุปขั้นตอนขจัดเซลลูไลท์

1. ให้ความสำคัญกับอาหาร ลดแคลอรีลงมื้อละ 10% ของสัปดาห์ก่อน (อย่าลดมากกว่านี้) ค่อยเป็นค่อยไปจนบรรลุเป้าหมาย หากไม่สำเร็จก็อย่าหวังว่าจะมียาใดช่วยได้โดดๆ

2. ออกกำลังกาย เพิ่มมวลกล้ามเนื้อบริเวณที่ปรากฏ เซลลูไลท์ด้วยวิธีบริหารแบบต้านแรงโน้มถ่วง ให้เกิดมัดกล้าม เช่น ยกน้ำหนัก ซิทอัพ ก้าวขึ้นบันได ฯลฯ

3. ทานน้ำมันปลา 1x3 โคลีนบี สังกะสี ทีมต้านอนุมูลอิสระ อย่างละ 1x1

4. ดื่มนมถั่วเหลือง เช้า + ก่อนนอน

5. ทานชีวโมเลกุล เซลล์ผิวเนื้อ  ตับ รังไข่ ต่อมใต้สมอง อย่างละ 1x3x10 และอวัยวะรวม 1x1x10 (หากทุนหนาก็น่าจะเป็นคอร์ส 30 วัน)

6. เลี่ยงอาหารไขมันเลว ไขมันทรานส์ น้ำมันพืชปรุงร้อน ของทอด ปิ้ง ย่าง แป้ง น้ำตาล ลดแคลอรี่รวม ลงมื้อละ 10% ของสัปดาห์ก่อน อย่าอดมื้อเช้า

ถามว่าหายขาดไหม ? ก็ย้อนกลับไปอ่านช่วงต้นที่ผ่านมา